ปาร์มา | ชิงเกว แตร์เร | หมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ | หมู่บ้านมานาโรล่า | เจนัว | มิลาน | ลูกาโน | เบลลินโซน่า | ลูเซิร์น | สิงโตหินแกะสลัก | สะพานไม้ชาเปล | ซุก | ขึ้นกระเช้าEiger Express สู่ยอดเขาจุงเฟรา | อินเทอร์ลาเกน | กรุงเบิร์น | มองเทรอซ์ | โลซานน์ | เจนีวา
  • : 022770000

MICHELIN GUIDE DINING อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ 8 วัน 5 คืน โดยสายการบิน EMIRATES (EK)

รหัสทัวร์
: TMGO3MXP-EK007
รหัสโปรแกรม
ทัวร์
: สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ยุโรป
สายการบิน
ระยะเวลา
เส้นทาง
: เจนัว มิลาน เจนีวา อินเตอร์ลาเคน ลูกาโน ซูริค ลูเซิร์น เบิร์น ซูก มองเทรอซ์

Hightlightไฮไลท์ทัวร์

ปาร์มา | ชิงเกว แตร์เร | หมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ | หมู่บ้านมานาโรล่า | เจนัว | มิลาน | ลูกาโน | เบลลินโซน่า | ลูเซิร์น | สิงโตหินแกะสลัก | สะพานไม้ชาเปล | ซุก | ขึ้นกระเช้าEiger Express สู่ยอดเขาจุงเฟรา | อินเทอร์ลาเกน | กรุงเบิร์น | มองเทรอซ์ | โลซานน์ | เจนีวา

รายละเอียดทัวร์

  • 23.00 น.

    คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
  • 02.50 น.

    ออกเดินทางสู่สนามบินดูไบ ด้วยเที่ยวบิน EK377

    06.00 น.

    เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง

    09.45 น.

    ออกเดินทางต่อสู่สนามบินมิลาน ด้วยเที่ยวบิน EK205

    14.20 น.

    ถึงสนามบินมิลาโนมัลเปนซา เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 6 ชั๋วโมงในวันที่ 27 ตุลาคม 2566) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นเดินทางสู่เมืองปาร์มา (Parma) เมืองในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา โดยเมืองนี้เป็นต้นกำเนิดแฮมและพาร์เมซานชีส มีแฮมที่มีชื่อเสียงอย่างปาร์มาแฮม (Parma Ham) ซึ่งโดดเด่นด้วยลักษณะพิเศษ คือ มีกลิ่นหอม รสชาติเค็มและออกหวานนิดๆ ทำมาจากขาหมู ที่นำไปบ่มไว้ในถ้ำ ซึ่งมีอากาศเย็น นานถึง 6 เดือน หรือนานแรมปี นำท่านเดินชมย่านเมืองเก่าอันสวยงามย่านใจกลางเมือง มีอนุสรณ์ของท่านนายพล จูเซปเป การิบัลดี (Giuseppe Garibaldi ) ผู้ต่อสู้เพื่อรวมประเทศอิตาลีเข้าด้วยกัน มีมหาวิหาร Piazza del Duomo มีหอศีลจุ่มหินอ่อนแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่เริ่มขึ้นในสไตล์โรมาเนสก์ในปี ค.ศ. 1196 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งของขึ้นชื่อของเมือง อาทิ พาร์เมซานชีส หรือ ภาษาอิตาเลี่ยน ปาร์มิจาโน เรจจาโน (Parmigiano Reggiano) รวมทั้งยังเป็นแหล่งผลิตแฮมอีกหลายชนิดอีกด้วย

    ค่ำ

    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปาร์มาแฮม)

    ที่พัก

    นำท่านเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL PARMA CENTRO หรือเทียบเท่า
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองลา สเปเซีย (La Spezia) เมืองในเขตลิกูเรีย ตอนเหนือของอิตาลีอยู่ระหว่างเมืองเจนัว และ ปิซ่า ในบริเวณอ่าวลิกูเรหนึ่งในอ่าวที่มีความสําคัญทางด้านการค้าและการทหาร นําท่านโดยสารรถไฟสู่ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้ มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้อีกด้วย

    กลางวัน

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (พิซซ่า)

    บ่าย

    จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ (Rio –Maggiore) เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนําท่านสู่หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 จากนั้นนำท่านเข้าสู่เมืองเจนัว (Genoa) เมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลีทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ โดยเมืองนี้มีชื่อเสียงจากการเป็นบ้านเกิดของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือที่ยิ่งใหญ่ของโลก ชมเขตเมืองเก่าศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป เป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 มาจนถึง ค.ศ. 1797 ปัจจุบันเป็นเมืองศูนย์กลางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของอิตาลี่ได้แก่ เฟียต, อัลฟ่าโรมีโอ, แลนเซีย

    ค่ำ

    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

    ที่พัก

    นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN GENOA CITY หรือเทียบเท่า
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    นำทุกท่านช้อปปิ้งต่อที่ SERRAVALLE OUTLET ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆ อีกมากมาย

    เที่ยง

    อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

    บ่าย

    จากนั้นเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลูกาโน (Lugano) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ในภาคใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเขตรัฐทีชีโน (Ticino) โดยตัวเมืองนั้นถูกล้อมรอบด้วยภูเขาจำนวนมาก นำท่านสู่ย่านเมืองเก่า(Old Town Lugano) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองที่มีลักษณะเป็นจัตุรัสสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน และยังเป็นที่ตั้งของอาคารเก่าแก่ของเมือง รวมไปถึงร้านค้าต่างๆ ให้ ท่านอิสระเดินชมเมือง หรือเลือกซื้อสินค้าท้องถิ่นอาทินาฬิกาสวิตที่ขึ้นชื่อ ช็อคโกแลต มีดสวิตฯ ผ้าพันคอ ผ้าลูกไม้กระดิ่งผูกคอวัวเป็นของฝากตามอัธยาศัย นำท่านออกเดินทางสู่เมืองเบลลินโซน่า (Bellinzona) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งปราสาท โดยเมืองนี้เป็นเมืองหลวงของมณฑลทีชี โดยตัวเมืองตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ แม่น้ำทีชีโน (Ticino River) โดยถัดขึ้นไปเหนือแม่น้ำจะเป็นเทือกเขาแอลป์ เป็นที่ตั้งของปราสาทขนาดใหญ่ 3 แห่งด้วยกัน คือ Castelgrande, Castello di Montebello และ Castello di Sasso Corbaro

    ค่ำ

    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

    ที่พัก

    นำท่านเข้าสู่ที่พัก BELLINZONA SUD หรือเทียบเท่า
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น

    เที่ยง

    อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

    บ่าย

    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซุก (Zug) นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald's church) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ชาวสวิสยังมีความเชื่ออีกว่า ถ้าใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ หรือเจ็บป่วย ถ้าได้มาขอพรกับโบสถ์แห่งนี้ จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว (กรณีถ้ามีพิธีภายในโบสถ์ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม)
    นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคารงานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ และไม่ควรพลาดเค้กเชอร์รี่ Zug Cherry Cake (Zuger Kirschtorte) จากร้าน Speck เค้กที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีขายมากว่าร้อยปี มีบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายต่างเคยลิ้มลองเค้กจากร้านนี้ เช่น Charlie Chaplin, Winston Churchill หรือสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส โดยเมืองซุกนี้มีการทำฟาร์มผลไม้ ทั้งสตอเบอร์รี่, บูลเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่,ลูกแพร์ ฯลฯ รวมทั้ง เชอร์รี่ ที่มีปลูกมากกว่า 40,000 ต้น

    ค่ำ

    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ร้านอาหารระดับ Michelin guide)
    สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich)

    ที่พัก

    นำท่านเข้าสู่ที่พัก RADISSON HOTEL ZURICH AIRPORT หรือเทียบเท่า **ในกรณีที่ห้องพักเมืองเซอร์แมตเต็ม จะเปลี่ยนไปนอนเมืองข้างเคียงแทน **
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    ออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองตากอากาศที่สวยงาม เพื่อขึ้นกระเช้าEiger Express กระเช้าลอยฟ้าตัวใหม่ สู่สถานี Eigergletscher โดยกระเช้าตัวนี้นอกจากจะให้ท่านได้เห็นวิวความสวยงามของจุงเฟราโดยรอบแล้วยังจะช่วยให้ท่านลดเวลาลงกว่า 40 นาที เมื่อเทียบกับการขึ้นสู่ยอดเขาแบบเดิม
    หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟเพื่อขึ้นสู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ โดยเมื่อปี คศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร หลังจากนั้นนำท่านเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขา และที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป

    กลางวัน

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองบนยอดเขา (ฟองดูว์ชีส)

    บ่าย

    นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และ มีความสำคัญประหนึ่งเมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอลันด์ มีภาพของยอดเขาจุงเฟราเป็นฉากหลัง อิสระให้ท่านเดินเล่นในเมืองตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich)

    ค่ำ

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

    ที่พัก

    นำท่านเข้าสู่ที่พัก RADISSON HOTEL ZURICH AIRPORT หรือเทียบเท่า **ในกรณีที่ห้องพักเมืองเซอร์แมตเต็ม จะเปลี่ยนไปนอนเมืองข้างเคียงแทน **
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า

    กลางวัน

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

    บ่าย

    นำท่านเดินสู่เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ นำท่านถ่ายรูปกับปราสาทชิลยอง (ด้านนอก) (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี
    นำท่านเดินทางสู่เมืองโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า จากนั้นนำท่านชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์ นำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา(Geneva) นำชมเมืองที่เป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ เมืองที่ตั้งองค์การสากลระดับโลก อาทิ องค์การการค้าโลก, กาชาดสากล, แรงงานสากล ฯลฯ ถ่ายรูปกับน้ำพุเจทโด (jet d'eau) ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 390 ฟุต (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับ นาฬิกาดอกไม้ สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวา

    17.30 น.

    ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน

    21.40 น.

    ออกเดินทางกลับสู่สนามบินดูไบ โดยสารเที่ยวบินที่ EK84
  • 06.10 น.

    ถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง

    09.40 น.

    ออกเดินทางต่อสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบินที่ EK372

    19.15 น.

    เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

มื้ออาหาร

วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8

เงื่อนไขโปรแกรมทัวร์

Overview

1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น 
***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
2. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า
ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ 
3. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

อัตรานี้รวม

1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์    อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ 
4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7. ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท 
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ ** 
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน] 
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **  
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
8. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

อัตรานี้ไม่รวม

1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
5. ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศเสวิตเซอร์แลนด์รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท) 
6. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  ( 13EUR/ต่อท่าน) 
7. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย ( 24 EUR /ต่อท่าน)

รหัสทัวร์ : TMGO3MXP-EK007